3 กรกฎาคม 2567 งานมหาพุทธาภิเษก พระปิดตาจินดามณี พระขุนแผนจินดามณี และเหรียญดวงเหนือดวงหลวงพ่อไพฑูรย์แช่น้ำมนต์ในพิธี วัดมาลุวาคณาราม ตำบลพลับพลา อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด (วัดที่หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท ท่านเคยบวชที่อุโบสถ ณ วัดมาลุวาคนาราม หลวงปู่ไพฑูรย์ ปภาโส เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องขององค์หลวงปู่มหาศิลาและเป็นสหธรรมมิกได้ศึกษาสรรพวิชาอาคมและได้ร่ำเรียนวิปัสนาและเรียนอักษรธรรมลาวกับหลวงพ่อสมาน ธัมรักขิตโต)
ได้เมตตาให้นายวสุไตรสิทธิ์ อาทิตย์ (ผู้สร้าง) และทีมงานบารมี จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น “ขุนแผนจินดามณี” และ “พระปิดตาจินดามณี” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้บำรุงวัดมาลุวาคณารามและซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้หน่วยอาสาอโสกธวัชบุรี
รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมนั่งปรกในพิธีมหาพุทธาภิเษก
1.พระพรหมวชิรโสภณ (ศรีจันทร์ ปุญฺญรโต) เจ้าอาวาสวัดบึงพระลานชัย (ธ.) (พระอารามหลวง)
2.พระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน(ธ.)
3.พระครูโสภณธรรมคุณาภรณ์(หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตโต) เจ้าคณะตำบลเขื่องใน และเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวันอรัญญวาสี อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
4. พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. หรือ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น)
5.หลวงปู่ขำ เกสาโร วัดหนองแดง จ.มหาสารคาม
6.พระอาจารย์อนุสรณ์(ต้อม) ปภัสสโร วัดท่าสะแบง จังหวัดร้อยเอ็ด
7.หลวงพ่อสายทอง สิริธมฺโม วัดดอนเกลือ จังหวัดร้อยเอ็ด
8.พระอาจารย์ปืน ปัญญาวุโธ วัดลาดชะโด ผักไห่ อยุธยา
9.พระครูวิมลบุญโกศล เจ้าอาวาส วัดวิมลนิวาส อำเภอเมือง จ.ร้อยเอ็ด
10. หลวงปู่หนู สุวณฺโณ วัดอัมพวนาราม ต.โนนตาล อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
11.หลวงปู่เวิน คุเณสโก วัดบูรพาโคกเครือ จ.กาฬสินธุ์
12. พระอาจารย์อุดล อคฺคธมฺโม วัดป่าดงเมือง ต.ร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธ์ุ
รูปแบบลักษณะศิลปะพุทธศิลป์
ขุนแผนจินดามณี
พุทธศิลป์ออกแบบเป็นรูปพระพุทธเจ้าเข้านิโรธสมาบัติประทับในซุ้มเรือนแก้ว
เป็นองค์แทนขุนแผนสื่อถึงความเมตตา
ล้อมด้วยเทพแห่งป่าหิมพานต์
ด้านซ้ายเป็นพญาคชสีห์ มีอิทธิคุณด้านมหาอำนาจวาสนา หนุนดวง เสริมบารมี
ด้านขวาเป็นพญาราชสีห์....
มีอิทธิคุณด้าน ปกป้องคุ้มครอง
เมตตา โชคลาภ ป้องกันภัย
ด้านล่างสุดเป็นพญาไกรสรนาคา
มีอิทธิคุณด้านคงกระพันชาตรี มหาอุตม์
ช่วยดลบันดาลทรัพย์สมบัติเงินทองแก่ผู้บูชา
ด้านหลังประทับด้วยยันต์ขุนแผนที่หลวงปู่มหาศิลาได้เคยเมตตามอบให้ไว้ แม่ใหญ่กระโต่ย ด้วยบุญบารมี และทีมงาน
พระคาถายันต์ขุนแผน
สุ นะ โม โล
นะ มะ มะ นะ
นะ อะ อะ นะ
นะ อุ อุ นะ
พระปิดตาจินดามณี
พระปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้งเก้า ความหมายเดิมคือพระเจ้าเข้านิโรธ ควรใช้ศัพท์เรียกว่า “ภควัม” ปิด ตานั่งขัดสมาธิ หรือพระเจ้าเข้านิโรธสมบัติ พระปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “ พระควัมปติ”
พระปิดตารุ่นนี้มีลักษณะอวบอ้วนคล้ายพระสังกัจจายน์เข้าฌานสมาบัติ
ทั้งสองข้างขององค์พระพิมพ์ลายกนก ลายนูนคมชัด
เส้นไรพระศกที่หน้าผากเป็นเส้นนูนชัดเจน
ติ่งหูยาวลงมาเกยไหล่ ใบหูชัดเจน
เข่าอวบใหญ่
ด้านหลังประทับด้วยยันต์พระคาถาจินดามณีที่หลวงปู่มหาศิลาได้เคยเมตตามอบให้ไว้แม่ใหญ่กระโต่ยและทีมงาน
ยันต์พระคาถาจินดามณี
จินดามะนี
ปะเสธโถ
จินดามะนี
โนพุทธะสติ
ชนวนมวลสารและกระบวนการสร้าง
มวลสารจากทั่วทุกสารทิศที่ผู้ใจบุญจากทั่วประเทศมอบให้อาทิเช่น ผงยาวาสนาจินดามณี , ผงสมเด็จวัดระฆัง, เกศาหลวงปู่ศิลา ฯลฯ ถูกบดและนำมาผสมเป็นมวลสารในพระผงปิดตาและขุนแผนทั้งหมด
โดยพระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง
ท่านได้กรุณามอบมวลสารหลัก
มูลค่ากว่า ร้อยล้านบาทให้
ท่านยังเป็นผู้ผสมสูตรมวลสาร ตามหลักวิชาของท่าน เองทั้งหมด
อีกทั้งท่านยังเมตตาให้ปั้มพระนำฤกษ์ที่วัดท่าสะแบง
เพื่อให้มวลสารที่ใช้ปั้มนั้น เป็นของที่ดีที่สุด และถือเป็นโอกาสอันมงคลยิ่งสำหรับพวกเราทุกๆคน ที่จะได้บูชาใช้พุทธคุณ
ประวัติ หลวงปู่ไพฑูรย์ ปภาโส (หลวงปู่ฑูรย์) วัดมาลุวาคณาราม. อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด
ต้นตระกูลของหลวงปู่ เป็นชาวนา อยู่ในหมู่บ้านเกษมสุข นามสกุลของหลวงปู่คือ ลำพาย โยมบิดาของท่านชื่อ คุณตาจารย์สุน โยมมารดาชื่อ คุณยายบัวพัน มีพี่น้องร่วมกัน 9 คน ท่านเป็นคนที่ 4 เคยแต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่ บ.หัวโนน มีบุตรชาย 1 คน
หลวงปู่ท่านเกิดเมื่อวันพุธ แรม 6 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 3 มิถุนายน 2496
เหมือนฟ้าได้ส่งให้หลวงปู่ได้มาสร้างความร่มเย็นเป็นสุข ให้แก่พุทธศาสนิกชน บำรุงพระพุทธศาสนา ท่านจบชั้น ป.4.ที่ ร.ร.บ้านเกษมสุข ต.พลับพลา อ.เชียงขวัญ จ.101.
ชีวิตในทางโลกและทางธรรม
ท่านมีดวงชะตาผูกอยู่ที่วัดตลอด ดังเช่น เป็นลูกศิษย์วัดตั้งแต่ 7 ขวบ จนเรียนจบชั้น ป.4 และได้บวชเณร และบวชเรียนพระเป็นเวลาต่อมา ในช่วงนี้ด้วยเดชะบุญและดวงชะตาของท่าน ท่านได้คัมภีร์โบราณเล่มหนึ่งมาศึกษา ซึ่งเป็นคัมภีร์ของ พระฤาษี 4 ตน มีอาจารย์เพชรคง และ อาจารย์เพชรแก้ว ศึกษาตำราเล่มนี้จนสำเร็จ และได้สร้างวัดขึ้นที่กรุงเก่าชื่อ วัดสองเกลอ คัมภีร์เล่มนี้มีอายุหลายร้อยปี จนตกทอดมาถึงรุ่นหลวงปู่ ซึ่งตำราเล่มนี้ได้มาจาก พ่อใหญ่จารย์ครูกุล ซึ่งเป็นตาของหลวงปู่เอง ในตำรามีวิชามากมาย ดังเช่น เปิดดวงชะตาต่างๆให้รุ่งเรืองตลอดเวลา ปกปักรักษาป้องกัน อยู่ยงคงกระพัน เมตตาบารมี เป็นตำราสารพัดนึก ท่านผู้ใดได้ศึกษาตำราเล่มนี้จนแตกฉาน และบรรลุแล้ว จะต้องประกอบบุญกุศล ตลอดเวลา บำรุงพระพุทธศาสนา เปิดดวงชะตาให้แก่พุทธศาสนิกชนผู้มีความศรัทธา.
ในสมัยที่ท่านยังเป็นพระหนุ่มนั้น ท่านได้เป็นครูมาสอนร่วมกับท่านพระครู ธวัชสันติคุณ ( พระอาจารย์ สมาน )เจ้าอาวาสวัดสันติวิหาร บ.ธวัชดินแดง สอนนักธรรมตรี ที่ บ.หัวโนน ท่านพระครูธวัชสันติคุณ ยังได้ศึกษาคัมภีร์ ของพระ ฤาษี 4 ตน เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง.
ด้วยลิขิตดวงชีวิตในช่วงนั้น หลวงปู่ได้ลาสิกขาออกมามีครอบครัวในช่วงหนึ่ง และมีบุตรชาย 1 คน.
แม้จะออกมา แต่ด้วยจิตใฝ่รู้ ท่านได้ศึกษาคัมภีร์บาลีต่างๆ ตลอดเวลาจนแตกฉาน.
ด้วยเดชะบุญบารมีหลวงปู่ ท่านจึงได้กลับมาบวชใหม่อีกครั้ง จนกระทั่งทุกวันนี้ และได้ศึกษา คัมภีร์ ตำรา พระธรรมบท อักขระเลขยันต์ คาถาอาคม ตลอดจนการปลุกเสก พระเวทย์ วิทยามนต์ อุปเทศน์ต่างๆ
ทุกวันนี้หลวงปู่จะเดินทางไปร่วมตามวัด และ สำนักปฏิบัติธรรมต่างๆ เพื่อร่วมก่อสร้าง ร่วมพุทธาภิเษก สร้างองค์พระพุทธรูป มหาเจดี และต่างๆในวัดวาอาราม ด้วยจิตอาสาของท่านหลวงปู่ ตามคัมภีร์ที่บ่งบอกมาว่า ใครศึกษาคัมภีร์นี้สำเร็จแล้ว จะต้องสร้างคุณงามความดีตลอดเวลา
ทุกวันนี้ท่านได้รับกิจนิมนต์มากมาย มีลูกศิษย์ทั้งในและต่างประเทศ มีลูกศิษย์ลูกหาหลากหลายสาขาอาชีพ ให้ความเครารพนับถือ ศรัทธาในตัวหลวงปู่ จึงไม่แปลกที่ วัตถุมงคลของหลวงปู่ เป็นที่นิยมของเหล่าลูกศิษย์ลูกหา นำไปบูชา เกิดปาฏิหาริย์. และประสพการณ์มากมาย. เช่นแคล้วคลาดปลอดภัย. เมตตามหานิยม. ค้าขายร่ำรวย. เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง. ปกป้องคุ้มครองจาก อวิชชา. มนต์ดำต่างๆ. ดีนักแล.
* เปิดตำนานเรื่องเล่า คัมภีร์โบราณของ หลวงปู่ไพฑูรย์ ปภาโส *
ตำนานคัมภีร์ พอสังเขป .
จุดเริ่มต้นในสมัยกรุงสุโขทัย ( ระหว่าง พศ. 1800 ) ได้มีฤาษี 4 ตน ได้มาพบกันพูดคุยเสวนา เรื่องวิชา คาถาอาคม ที่ต่างตนต่างได้ร่ำเรียนศึกษา ปฏิบัติมา และแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กัน จนในที่สุดได้ตกลงกัน เขียนคัมภีร์ขึ้นมา 2 เล่ม โดยเอาวิชา คาถาอาคม ที่ฤาษีทั้ง 4 ตนมีมารวมกันไว้ในคัมภีร์ทั้ง 2 เล่ม เล่มที่ 1 เป็นมนต์ขาว เล่มที่ 2 เป็นมนต์ดำ ( ในที่นี้ผมขอใช้คำว่า มนต์ขาว มนต์ดำ ) โดยเขียนเป็นภาษา ขอมโบราณ และสืบทอดกันมาหลายร้อยปี จนมาถึง กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ( ระหว่าง พศ. 2231) กำลังจะเข้าสู่สมัยกรุงธนบุรี ได้มีฤาษี 2 ตน มีชื่อเขียนไว้ในคัมภีร์ มีอาจารย์ เพรชคง และอาจารย์ เพรชแก้ว ผู้ที่ได้ครอบครองคัมภีร์ทั้ง 2 เล่มในขณะนั้น และได้ศึกษาวิชา คาถาอาคมต่างๆในคัมภีร์จนสำเร็จ และได้ทำการเขียนคัมภีร์ขึ้นมาใหม่ ในเนื้อหาเดิม เนื่องจากคัมภีร์เล่มเก่ามีอายุหลายร้อยปี และฤาษีทั้ง 2 ตน ยังได้สร้างวัดขึ้นที่ กรุงเก่า ชื่อว่าวัด สองเกลอ ซึ่งในปัจจุบันคาดว่าได้เปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ หรือถูกทิ้งร้าง และคัมภีร์ทั้ง 2 เล่มได้ตกทอดมาถึงคุณตาของหลวงปู่ และหลวงปู่ก็เลือกที่จะศึกษา วิชา คาถาอาคม จากเล่มมนต์ขาว ปัจจุบัน คัมภีร์เล่มมนต์ขาวนี้ ยังอยู่ในครอบครองของหลวงปู่ รอผู้สืบทอดมรดกต่อไป.